The Case : Japanese Poor Sleep (1/2)

บทความที่ 1. ผลสำรวจในเด็กญี่ปุ่น - นอนน้อยกว่ามาตรฐาน

โตเกียว: การศึกษาล่าสุดแสดงให้เห็นว่าเด็กญี่ปุ่นมากกว่าครึ่งที่นอนหลับไม่เพียงพอ

นักวิจัยจากสถาบันวิจัยชั้นนำของญี่ปุ่น Riken และมหาวิทยาลัยโตเกียวได้รายงานผลการศึกษาเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2024 โดยมีการวัดรูปแบบการนอนหลับของนักเรียนระดับประถมศึกษา มัธยมต้น และมัธยมปลายประมาณ 7,700 คน

โครงการที่เรียกว่า "การตรวจการนอนหลับของเด็ก" เริ่มต้นในเดือนกันยายน 2022 ผู้เข้าร่วมสวมอุปกรณ์คล้ายนาฬิกาทุกสัปดาห์เพื่อบันทึกระยะเวลา, คุณภาพ, และจังหวะการนอนหลับของแต่ละคน โดยในเดือนมกราคมของปีนี้ นักวิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลจากเด็ก 7,700 คนจาก 68 โรงเรียนทั่วประเทศ

"แนวทางการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ" ที่รัฐบาลแนะนำให้เด็กนักเรียนระดับประถมศึกษานอนหลับ 9 ถึง 12 ชั่วโมง และนักเรียนระดับมัธยมต้นและมัธยมปลายนอนหลับ 8 ถึง 10 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม การศึกษายังพบว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 นอนหลับเฉลี่ย 7.90 ชั่วโมง นักเรียนมัธยมต้นนอนหลับเฉลี่ย 7.09 ชั่วโมง และนักเรียนมัธยมปลายนอนหลับเฉลี่ย 6.45 ชั่วโมง ซึ่งต่ำกว่าระดับที่แนะนำ นักเรียนมัธยมปลายประมาณ 30% นอนหลับน้อยกว่า 6 ชั่วโมง

นักวิจัยสังเกตว่าเด็กจำนวนมากประสบกับอาการ "Social Jet Lag" ซึ่งอธิบายว่าพวกเขาตื่นนอนไม่เป็นเวลาระหว่างวันธรรมดาและวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยนักเรียนมัธยมปลายตื่นสายกว่าปกติกว่า 90 นาทีในวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งในความต่างระหว่างการตื่นนอนในวันธรรมดาและวันหยุดสุดสัปดาห์จะยิ่งกว้างขึ้นอีกเมื่อเด็กยิ่งโตขึ้น

อาการเจ็ตแล็กทางสังคมอาจทำให้เกิดอาการง่วงนอนในเวลากลางวันอย่างรุนแรง สมาธิสั้น และเสี่ยงต่อสุขภาพในอนาคต

Akifumi Kishi สมาชิกในทีมและอาจารย์มหาวิทยาลัยโตเกียวกล่าวว่า "ในวันหยุดสุดสัปดาห์ เด็กๆ เข้านอนดึกและตื่นสายเพื่อชดเชยเวลานอน ทางแก้ไขที่สำคัญคือต้องปรับรูปแบบการนอนหลับโดยนอนมากขึ้นในระหว่างสัปดาห์และเข้านอนเร็วขึ้นในวันหยุดสุดสัปดาห์แทนที่จะนอนดึก"

ทีมวิจัยกำลังมองหาเมืองและโรงเรียนใหม่ๆ ที่จะเข้าร่วมโครงการตรวจการนอนหลับ และจะดำเนินการศึกษาต่อจนถึงปีงบประมาณ 2025